ต้นลุมไซย (ธนนไชย) ลักษณะ, ประโยชน์, สรรพคุณทางสมุนไพร ออกดอกเดือนไหน?
ลุมไซย (ธนนไชย)
ลุมไซย (ธนนไชย) ชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Buchanania siamensis Miq. จัดเป็นพืชในสกุล Buchanania อยู่ในวงศ์มะม่วง (Anacardiaceae) ซึ่งพันธุ์พืชนี้ ทางเราจัดไว้ในกลุ่มสมุนไพร มีชื่อพ้อง คือ Buchanania pallida Pierre
ชื่อไทย
ชื่อที่เป็นทางการ หรือ ชื่อราชการของพืชชนิดนี้ มีชื่อไทยว่า ธนนไชย (อ้างอิงจากข้อมูลชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย; เต็ม สมิตินันท์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2557)
ต้นธนนไชย ยังมีชื่ออื่น ๆ ที่เป็นชื่อพื้นเมือง หรือชื่อท้องถิ่น ว่า พังพวยนก พังพวยป่า ลันไชย (ราชบุรี, ภาคใต้), รวงไซ รางไซ (อุบลราชธานี), ลังไซ (ปราจีนบุรี), ศรีธนนไชย ธนนไชย ลุมไซย (นครราชสีมา) และมีชื่อสามัญ (ภาษาอังกฤษ) ว่า -
ต้นลุมไซย (ธนนไชย) ในประเทศไทยพบขึ้นตามทุ่งหญ้า ป่าผลัดใบ และป่าบุ่งป่าทาม ชอบขึ้นในที่โล่งแจ้ง บนที่ราบดินตะกอนหรือพื้นที่ดินเค็ม ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 200 ม.
การกระจายพันธุ์
การกระจายพันธุ์ของลุมไซย (ธนนไชย) ในไทยพบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตกตั้งแต่จังหวัดกาญจนบุรีลงมาถึงประจวบคีรีขันธ์ ต่างประเทศพบในลาว เวียดนาม และกัมพูชา
ลุมไซย (ธนนไชย) ออกดอกเดือนไหน
ต้นลุมไซย (ธนนไชย) ออกดอกช่วงเดือนธันวาคม - มีนาคม ผลแก่ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของลุมไซย (ธนนไชย)
- ลักษณะวิสัย: ไม้ต้น สูง 5-10 ม.
- ลำต้น: เปลือกแตกเป็นร่องตื้นตามยาว-แตกสะเก็ดตามยาว แตกกิ่งเป็นกระจุกรอบข้อ กิ่งอ่อนมีขนสั้นนุ่มสีน้ำตาล
- ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียนเป็นกระจุกแน่นช่วงปลายกิ่ง และมักจะชูตั้งขึ้น รูปไข่กลับหรือรูปใบพาย ยาว 4-8 ซม. ปลายมนหรือเว้าตื้น โคนใบสอบ ผิวใบอ่อนด้านล่างมีขนสั้น ใบแก่เกลี้ยง แผ่นใบหนา เส้นแขนงใบข้างละ 9-13 เส้น ก้านใบยาว 1-5 มม. ใบอ่อนสีน้ำตาลแดง
- ดอก: ช่อดอกแบบแยกแขนง ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาว 4-8 ซม. มีขนสั้นหนาแน่น ดอกขนาดเล็ก สีขาวหรืออมเหลือง ดอกบานกว้าง 3-5 มม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ
- ผล: ผลกลมเบี้ยวหรือคล้ายรูปหัวใจ กว้าง 1-1.5 ซม. แบนด้านข้างเล็กน้อย ผลอ่อนสีเขียวอ่อน เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีชมพู-สีดำ
- เมล็ด: มีเมล็ดเดียว เมล็ดแข็ง
ประโยชน์
การใช้ประโยชน์ของลุมไซย (ธนนไชย) สามารถนำมาเป็นอาหาร โดยใช้เมล็ดและผลอ่อนกินกับปลาแดกบอง
สรรพคุณทางสมุนไพร ใช้ยางทารักษาโรคปากเปื่อย แผลร้อนในภายในปาก
การใช้ประโยชน์ในด้านก่อสร้างหรือเครืองมือ โดยใช้เนื้อไม้ทำแอกไถนา ล้อเกวียน หรือเครื่องมือการเกษตร