✓ต้นไม้: กาแฟอาราบิก้า พันธุ์เชียงราย1,2 ต้านทานโรคราสนิม?
กรมวิชาการเกษตร ปรับปรุงพันธุ์กาแฟอาราบิก้า 2 พันธุ์ใหม่ ให้ผลผลิตสูง ต้านทานโรคราสนิม กลิ่นรสแปลกใหม่ กาแฟอาราบิก้า เชียงราย1 กลิ่นรสคาราเมล และกาแฟอาราบิก้า เชียงราย2 กลิ่นรสสมุนไพร
นางสุภัทราเลิศวัฒนาเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ผล สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตรเป็นหัวหน้าคณะวิจัย จึงได้ทำการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์กาแฟอาราบิก้าเพื่อให้ได้พันธุ์กาแฟอาราบิก้าที่ต้านทานต่อโรคราสนิมและให้ผลผลิตสูง
โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกพันธุ์คือมีความต้านทานต่อโรคราสนิมสูงกว่า 96 เปอร์เซ็นต์คุณภาพการชิมดี
คะแนนสูงกว่า 65 -70 คะแนนผลผลิตปานกลางถึงสูงและให้ปริมาณสารกาแฟเกรด A ไม่น้อยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
การปรับปรุงพันธุ์กาแฟอาราบิก้า เชียงราย1,2
เริ่มจากกรมวิชาการเกษตร ได้รับเมล็ดพันธุ์กาแฟอาราบิก้าลูกผสม ที่ได้คัดเลือกมาจากศูนย์วิจัยโรคราสนิมกาแฟ ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานภายใต้มหาวิทยาลัยลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
โดยกรมวิชาการเกษตรเริ่มการพัฒนาพันธุ์จากลูกผสมรุ่นที่ 2 ที่ได้รับจากศูนย์วิจัยโรคราสนิมกาแฟ มาดำเนินการทดสอบที่สถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอด อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ปี 2525-2532 นำเมล็ดพันธุ์กาแฟอาราบิกาลูกผสมรุ่นที่ 3 จำนวน 9 สายพันธุ์ปลูกแบบต้นต่อแถว จำนวน 100 ต้น ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ คัดเลือกได้สายพันธุ์ที่ต้านทานโรคราสนิม จำนวน 6 สายพันธุ์
ปี 2532-2543 นำเมล็ดพันธุ์กาแฟอาราบิก้าลูกผสมรุ่นที่ 4 จำนวน 6 สายพันธุ์ ปลูกแบบต้นต่อแถว จำนวน 200 ต้น ณ ศูนย์วิจัยเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ คัดเลือกได้สายพันธุ์ที่ต้านทานโรคราสนิม จำนวน 3 สายพันธุ์
ปี 2543-2546 นำเมล็ดพันธุ์กาแฟอาราบิก้าลูกผสมรุ่นที่ 5 จำนวน 3 สายพันธุ์ ปลูกแบบต้นต่อแถว จำนวน 50 ต้น คัดเลือกได้สายพันธุ์ที่ต้านทานโรคราสนิม จำนวน 20 สายพันธุ์เพื่อใช้เมล็ดไปปลูกเปรียบเทียบในรุ่นที่ 6 จำนวน 20 สายพันธุ์ ปลูกแบบต้นต่อแถว จำนวน 50 ต้น
คัดเลือกได้สายพันธุ์ที่ต้านทานโรคราสนิม จำนวน 7 สายพันธุ์เพื่อใช้เมล็ดไปปลูกเปรียบเทียบสายพันธุ์รุ่นที่ 7 ในพื้นที่ 2 แห่ง คือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย และศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่
จนถึงปี 2564 ได้สายพันธุ์ดีเด่นจำนวน 2 สายพันธุ์เสนอคณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร พิจารณาเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตรจำนวน 2 พันธุ์ใช้ชื่อว่า กาแฟอาราบิก้า พันธุ์เชียงราย1 และ กาแฟอาราบิก้า พันธุ์เชียงราย2
กาแฟอาราบิก้า พันธุ์เชียงราย1
กาแฟอาราบิก้าพันธุ์เชียงราย1 มีลักษณะเด่นคือต้านทานต่อโรคราสนิมสูง เมื่ออายุ 8 ปีให้ผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบ 569.6 กรัมต่อต้น ให้ปริมาณสารกาแฟ green bean เกรด A เฉลี่ย 81.8 เปอร์เซ็นต์ คุณภาพการชิม 78-79.5 คะแนน
ชิม โดยได้นำตัวอย่างกาแฟอาราบิก้าเชียงราย1 ไปทดสอบคุณภาพที่ Acaemia do Café, Lisboa โปรตุเกส ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้ใบรับรองมาตรฐานของสมาคมกาแฟพิเศษแห่งอเมริกาพบว่า กาแฟอาราบิก้าเชียงราย1 ได้คะแนนการประเมินของพันธุ์ซึ่งปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย 79.5 คะแนน (จาก 100 คะแนน)
โดยมีกลิ่นคาราเมลและหวานกลิ่นรสชอคโกแล็ตนม (milk chocolate) รสชาติถั่วอ่อนๆ มี รสเปรี้ยวของนมเปรี้ยว ส่วนที่ปลูก ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ได้ 78 คะแนน (จาก 100 คะแนน) พบว่า มีกลิ่นรสหอมคาราเมล (caramel) กลิ่นถั่วธัญพืช และรสชาติหวานอ่อน
กาแฟอาราบิก้า พันธุ์เชียงราย2
กาแฟอาราบิก้าพันธุ์เชียงราย2 มีลักษณะเด่นคือต้านทานต่อโรคราสนิมสูง เมื่ออายุ 8 ปีให้ผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบ 623.65 กรัมต่อต้น ให้ปริมาณสารกาแฟ green bean เกรด A เฉลี่ย 81.89 เปอร์เซ็นต์ คุณภาพการชิม 76 – 79 คะแนน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับดีมาก
ส่วนรสชาติและกลิ่นนั้นพบว่าแต่ละสถานที่มีรสชาติและกลิ่นต่างกัน โดยกาแฟอาราบิก้าพันธุ์เชียงราย2 ซึ่งปลูกที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ได้ 79 คะแนน (จาก 100 คะแนน) มีกลิ่นรสสมุนไพรรสหวาน (sweet spice) กลิ่นเครื่องเทศ และรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อยแต่กลมกล่อม
ส่วนที่ปลูก ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย ได้ 76 คะแนน (จาก 100 คะแนน) พบว่า มีกลิ่นผลไม้ (fruity) กลิ่นหอมคาราเมลเข้มข้น รสชาติหอมหวาน
สถาบันวิจัยพืชสวนมีแปลงผลิตเมล็ดและต้นกล้าพันธุ์ที่เสียบยอด และขยายพันธุ์แนะนำที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงรายและศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ คาดว่าจะผลิตต้นพันธุ์เพื่อให้เกษตรกรได้นำไปปลูกเป็นทางเลือกใหม่และสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นได้ประมาณปลายปี 2565 นี้ .
References: กรมวิชาการเกษตร