✓เมล็ดพันธุ์: แตงโม ซอนญ่า พลัส,เมญ่า,ทัมอัพ พันธุ์เจียไต๋?
เมล็ดพันธุ์แตงโมสายพันธุ์ของเจียไต๋ ที่เกษตรกรนิยมปลูก ในขณะนี้ มี 3 สายพันธุ์
คือ แตงโมซอนญ่า-พลัส, แตงโมเมญ่า และแตงโมทัมอัพ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ...
เมล็ดพันธุ์แตงโม เจียไต๋
แตงโมซอนญ่า พลัส
แตงโมทรงกลมรี (short oblong) มีจุดเด่นที่เนื้อสีแดงสดใส รสชาติหวานชื่นใจ เนื้อกรอบ ผลเป็นลายคริมสันแท้ เปลือกบาง เนื้อเยอะ เมล็ดน้อย
สามารถปลูกได้ทุกภาคในประเทศไทย ปลูกง่าย ทำกำไรได้มาก เพราะปัจจุบันตลาดมีความต้องการสายพันธุ์นี้สูงมาก น้ำหนักผลเฉลี่ย 4-6 กิโลกรัม
แตงโมเมญ่า
แตงโมทรงหมอนยาว (oblong) จุดขายคือสีแดงสวย เนื้อละเอียด รสชาติหวานละมุน ผลสีเขียวเข้มมีลายตาข่าย เนื้อเยอะ นิยมปลูกเพราะเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกได้ตลอดทั้งปีและเหมาะกับภูมิประเทศที่มีฝนมาก เช่น ภาคใต้เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่ทนฝน และสามารถไว้ลูกข้อใกล้ได้ไส้ไม่แตก น้ำหนักผลเฉลี่ย 4-6 กิโลกรัม
แตงโมทัมอัพ
แตงโมทรงกลมรี (short oblong) ลักษณะเด่นคล้ายแตงโมญี่ปุ่น คือลูกสีเขียวเข้มจนเกือบดำ เนื้อแน่นมากให้ความรู้สึกกรอบอร่อย รสชาติหวานและมีกลิ่นหอม เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มาแรง เกษตรกรเริ่มปลูกมากขึ้น และได้ผลตอบรับจากตลาดดีมาก จุดเด่นคือเป็นสายพันธุ์ที่ดก แต่หากต้องการให้ได้ผลใหญ่ น้ำหนักสูง ควรเลี้ยงผลเพียง 1-2 ผลต่อต้น น้ำหนักผลเฉลี่ย 3-5 กิโลกรัม
ช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกแตงโม คือ ช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือประมาณเดือนตุลาคม ซึ่งผลิตผลที่ได้จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม และในช่วงนี้ก็เข้าใกล้ฤดูเพาะปลูกแตงโมกันแล้ว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องเกษตรกรและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร
จึงขอชวนพี่น้องเกษตรกรมาเตรียมความพร้อมในการปลูกแตงโมเพื่อสร้างรายได้ด้วยเคล็ด(ไม่)ลับ ที่จะช่วยให้การปลูกแตงโมได้ผลิตผลงาม ขายง่าย รายได้ดี
"ปลูกเร็วขายคล่อง" คือข้อดีของการปลูกแตงโม เพราะตั้งแต่ระยะเริ่มเพาะปลูกไปจนถึงช่วงเก็บเกี่ยว ใช้เวลาน้อย เพียงประมาณ 2 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิต ส่งตลาดและได้ผลตอบแทนแล้ว
โดยเฉพาะแตงโมสายพันธุ์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะคุณภาพผลิตผลที่ถูกใจ ทั้งเกษตรกร ผู้ปลูก และผู้บริโภค เรียกได้ว่า "คนปลูกได้กำไรงาม คนทานได้ลิ้มรสของอร่อย" ด้วยงบลงทุนต่อไร่เฉลี่ยเพียง 10,000 บาท โดยให้ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 4 – 6 ตัน และราคาผลผลิตเฉลี่ยกิโลกรัมละ 8 – 10 บาท (ขึ้นกับสถานการณ์ตลาดขณะนั้น)
คุณการะเวก ก่วยจีน หรือที่ใคร ๆ เรียกว่า "ป๋าเวก" เป็นผู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จกับการปลูกแตงโม 1 ใน 3 สายพันธุ์นั้น จากเกษตรกรที่ปลูกอ้อยมายาวนาน ประสบปัญหาราคาอ้อยที่ผันผวน ต้องใช้เวลานานกว่าจะเก็บเกี่ยวอ้อยได้ป๋าเวกตัดสินใจพลิกชีวิต เริ่มต้นใหม่กับธุรกิจแตงโมในจังหวัดกำแพงเพชร ปลูกแตงโมมาหลายพันธุ์ แต่หลังจากได้เปิดใจทดลองปลูกแตงโม ซอนญ่า พลัสเกิดความประทับใจ เพราะเมื่อเทียบกับแตงโมสายพันธุ์อื่นๆ ที่เคยปลูก เห็นได้ชัดว่าแตงโมซอนญ่า พลัส นั้นดีกว่า ทั้งคุณภาพเมล็ดพันธุ์ความสม่ำเสมอของขนาด และทรงผล ทำให้ได้ผลิตผลต่อไร่ที่เพิ่มขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพเนื้อของแตงโมซอนญ่า พลัส ยังเป็นที่ยอมรับและนิยมชมชอบจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง ป๋าเวกจึงหันมาปลูกแตงโมซอนญ่า พลัส เต็มตัวจนประสบความสำเร็จอย่างในปัจจุบัน
"ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ได้ขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้นถึง 5 เท่า แน่นอนว่าไม่ใช่การเติบโตของผมคนเดียว แต่เป็นการเติบโตไปพร้อมๆ กัน กับเครือข่ายเพื่อนเกษตรกรของผม" คุณการะเวก ก่วยจีน กล่าว
วิธีปลูกแตงโมได้ผลิตผลงาม โตเร็ว ขายง่าย รายได้ดี ตลาดต้องการ
เพื่อให้พี่น้องเกษรตกรได้เตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลปลูกแตงโมที่กำลังจะมาถึง จึงขอแบ่งปันเคล็ดลับ 5 ข้อที่จะช่วยให้การปลูกแตงโม ได้ผลิตผลที่สวยงามและได้ราคาดีได้แก่
1. การให้น้ำและการดูแลรักษาแปลง
ควรวางระบบน้ำหยดและคลุมแปลงเสมอซึ่งระบบน้ำหยด จะช่วยให้ควบคุมปริมาณการใช้น้ำได้ดีเพราะแตงโมเป็นพืชที่ควรให้น้ำทีละน้อยๆ แต่ให้บ่อยๆ หากให้น้ำมากไปจะส่งผลต่อคุณภาพเนื้อที่จะเกิดปัญหาไส้ล้ม อายุการเก็บรักษาสั้น และความหวานจะลดลง รวมถึงโรคจากเชื้อราที่จะตามมาอีกด้วย ส่วนการคลุมแปลงนั้นช่วยได้มากใน เรื่องการควบคุมความชื้นในดินและป้องกันวัชพืชต่างๆ
2. การตัดยอดและจัดเถา
การเด็ดยอดช่วยให้แตงโมแตกแขนงจากนั้นควรจัดเถาไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ปล่อยให้เถาเลื้อยไปตามธรรมชาติจนทับซ้อนกัน เนื่องจากทำให้ดูแลยากและมีผลต่อจำนวนผลิตผลที่จะลดลงโดยให้เหลือต้นละ 3 เถา เพราะการจัดเถาที่เป็นระเบียบจะช่วยให้การติดลูกได้คุณภาพสม่ำเสมอ อีกทั้งยังง่ายต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิต เก็บได้พร้อมกันทั้งแปลง ช่วยลดต้นทุนและประหยัดเวลา
3. การต่อดอก
คัดเลือกดอกตัวเมียดอกที่ 2 – 3 หรือประมาณข้อที่ 13–15 ขึ้นไป เพื่อทำการผสมดอก โดยเด็ดดอกตัวผู้ที่กำลังบานมาปลิดกลีบดอกออกให้หมด แล้วจึงนำเกสรดอกตัวผู้นี้ ไปแต้มลงบนเกสรดอกตัวเมียให้ทั่วกันทั้งดอก ซึ่งเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงเช้า 6.00-10.00 น. เท่านั้น และเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดควรผสมดอกด้วยมือ ซึ่งจะช่วยให้การติดลูกออกมาได้ทรงสวยเกรดเอ
4. การปลิดผลทิ้ง
แตงโม 1 ต้นควรคัดไว้เพียง 2 ลูก เพื่อให้ได้ผลิตผลที่มีคุณภาพสูงสุด น้ำหนักดีขายได้ราคาจึงไม่ควรไว้ลูกเกิน 2 ลูกต่อต้น คัดเฉพาะลูกที่สมบูรณ์ที่สุดไว้เท่านั้น
5. การเก็บผล
งดให้น้ำ 3 วันก่อนเก็บเกี่ยว เนื่องจากลักษณะเด่นของแตงโมที่ดีคือ เนื้อแน่น สีแดงสวย รสหวานหอม หากต้องการคงจุดขายเหล่านี้ไว้จำเป็นจะต้องงดการให้น้ำเป็นเวลา 3 วันก่อนเก็บผลิตผล
เพื่อให้แตงโมเข้าสู่สภาวะปรับตัว โดยแตงโมจะสร้างความหวานสูงขึ้น เนื้อจะมีสีแดงสวยชัดขึ้น เปลือกแข็งขึ้นทนต่อการกระแทกระหว่างการขนส่ง ซึ่งล้วนตรงความต้องการของตลาด
เพียงเท่านี้พี่น้องเกษตรกรก็สามารถนำเทคนิคทั้ง 5 ไปเตรียมความพร้อมสำหรับปลูกแตงโมในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ได้เลย เพื่อเป้าหมาย ‘ขายได้ดี ขายได้ทุกผล’
อ้างอิง: ข่าวสารสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ปีที่ 35 ฉบับที่ 2 ประจำเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม 2563